รวม ปุ๋ยทิพย์.html/feed ยี่ห้อไหน น่าใช้ อัพเดทล่าสุดในปี 2567

ปุ๋ยทิพย์ สูตร 15-15-15 เป็น Bulk Blending Fertilizer (ปุ๋ยผสม) พืชที่แนะนําให้ใช้ พืชไร่ ไม้ผล พืชผัก และไม้ดอกไม้ประดับ พืชไร่ ​มันสําปะหลัง ใส่ปุ๋ยเคมีครั้งเดียว เป็นหลุมสองข้างต้นแล้วพรวนดินกลบ ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 60-80 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1-2 เดือน หรือหลังการกําจัดวัชพืชครั้งแรก ​อ้อย ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 60-100 กก./ไร่/ปี ดังนี้ อ้อยปลูก แบ่งใส่เป็นสองครั้งเท่า ๆ กัน ใส่ครั้งแรกหลังปลูกประมาณ 1 เดือน ใส่ครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน อ้อยตอ นอกเขตชลประทาน ครั้งแรกต้นฤดูฝน ครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว อ้อยตอ ในเขตชลประทาน ครั้งแรกใส่ทั้งหมดหลังตัดแต่งตอ ครั้งที่สองใส่ปุ๋ยเคมีแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) อัตรา 20-40 กก./ไร่ หลังจากใส่ครั้งแรก 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว ควรใส่ปุ๋ยเคมีขณะที่ดินมีความชื้นพอเหมาะและต้องพรวนดินกลบปุ๋ยเคมี ไม้ผล ใส่ปุ๋ยเคมีบริเวณทรงพุ่มแล้วพรวนดินกลบในอัตรา 1-5 กก./ต้น/ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น และในปีหนึ่ง ๆ ควรแบ่งในปุ๋ยเคมีประมาณ 3 ครั้ง พืชผัก ใส่เมื่อพืชตั้งตัวดีแล้วแบ่งใส่สองครั้ง ครั้งแรกใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 40-60 กก./ไร่ โดยวิธีหว่านหรือรองก้นหลุม ครั้งที่สองใช้ปุ๋ยเคมีอัตราเดียวกับครั้งแรก หลังจากใส่ปุ๋ยเคมีครั้งแรก 15-30 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว ไม้ดอกไม้ประดับ ถ้าปลูกเป็นไร่ใช้เช่นเดียวกับพืชผัก ถ้าปลูกเป็นกระถางใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-30 กรัม/กระถาง ธาตุอาหารรอง / ธาตุอาหารเสริม แมกนีเซียม (Mg) เป็นองค์ประกอบสําคัญของคลอโรฟิลล์ (สีเขียว) ในพืช ช่วยสร้างโปรตีน ไขมัน วิตามิน และน้ําตาลในพืช ส่งเสริมการนําธาตุฟอสฟอรัสไปสู่ลําต้น ทําให้สภาพกรดด่างในเซลล์เหมาะสม กํามะถัน (S) สร้างกรดอะมิโน โปรตีน และวิตามินบีในพืช ช่วยสร้างสี กลิ่น และน้ํามันในพืช ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์

อาหารบํารุงพืช พันธุ์ไม้ทิพย์ ปุ๋ยชีวภาพเม็ด ปุ๋ยปลูกต้นไม้ ถุงปุ๋ยใส่ข้าว 0 30 35

ปุ๋ยทิพย์ สูตร 30-11-5 Bulk Blending Fertilizer (ปุ๋ยผสม) พืชที่แนะนําให้ใช้ พืชไร่ ไม้ผล พืชผัก พืชไร่ เช่น ฝ้าย ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 40-70 กก./ไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-35 กก./ไร่ โดยวิธีรองก้นหลุมก่อนปลูก ครั้งที่สองใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-35 กก./ไร่ ใส่เมื่อข้าวโพดหรือข้าวฟ่าง มีอายุประมาณ 30 วัน โดยวิธีโรยข้างแถวปลูก ไม้ผล เช่น มะม่วง กล้วย มะละกอ องุ่น น้อยหน่า ทุเรียน เงาะ ลางสาด ฝรั่ง มังคุด ลิ้นจี่ ลําไย และส้ม ในระยะก่อนตกผลใส่ปุ๋ยเคมีบริเวณทรงพุ่มแล้วพรวนดินกลบ ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 1-3 กก./ต้น/ปี ขึ้นกับขนาดของต้นในปีหนึ่ง ๆ ควรใส่ปุ๋ยเคมีประมาณ 3 ครั้ง (ทุเรียน ส้ม ไม่ต้องพรวนดินกลบ) พืชผัก เช่น กะหล่ําดอก กะหล่ําปลี ผักกาดขาว ผักชี คึ่นฉ่าย ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง แตงกวา หอมพริก กระเทียม มะเขือ มะระ และ น้ําเต้า ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 50-60 กก./ไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้งเท่าๆ กัน ครั้งแรกใส่ก่อนปลูก ครั้งที่สองใส่หลังปลูกแล้วประมาณ 25-30 วัน ธาตุอาหารรอง / ธาตุอาหารเสริม แมกนีเซียม (Mg) เป็นองค์ประกอบสําคัญของคลอโรฟิลล์ (สีเขียว) ในพืช ช่วยสร้างโปรตีน ไขมัน วิตามิน และน้ําตาลในพืช ส่งเสริมการนําธาตุฟอสฟอรัสไปสู่ลําต้น ทําให้สภาพกรดด่างในเซลล์เหมาะสม กํามะถัน (S) สร้างกรดอะมิโน โปรตีน และวิตามินบีในพืช ช่วยสร้างสี กลิ่น และน้ํามันในพืช ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์

อาหารบํารุงพืช พันธุ์ไม้ทิพย์ ปุ๋ย 25 7 7 ยารา 50 กิโล ปุ๋ยกิฟฟารีน 15 12 1 7 ปุ๋ยทางใบมันสําปะหลัง ปุ๋ย 13 13 21 50 kg

พืชที่แนะนําให้ใช้ ข้าว พืชผัก พืชไร่ พืชสวน ไม้ผล ข้าว มักใช้ปุ๋ยครั้งที่สอง ก สําหรับข้าวนาดํา สําหรับข้าวพันธุ์ไม่ไวต่อช่วงแสง ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-20 กก./ไร่ ใส่หลังจากการใส่ปุ๋ยเคมีครั้งแรก 30 วัน หรือ 25-30 วัน ก่อนข้าวออกดอก สําหรับข้าวพันธุ์ไวต่อช่วงแสง ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 5-10 กก./ไร่ หลังจากใส่ปุ๋ยเคมีครั้งแรก 30 วัน หรือก่อนข้าวออกดอก 30 วัน ข สําหรับนาหว่านน้ําตม/นาหยอด สําหรับข้าวพันธุ์ไม่ไวต่อช่วงแสง ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 15-20 กก./ไร่ ใส่หลังจากใส่ปุ๋ยเคมีครั้งแรก 30 วัน หรือ 25-30 วัน ก่อนข้าวออกดอก สําหรับข้าวพันธุ์ไวต่อช่วงแสง ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 5-10 กก./ไร่ หลังจากใส่ปุ๋ยเคมีครั้งแรก 30 วัน หรือใส่ก่อนข้าวออกดอก 25-30 วัน พืชผัก เช่น คะน้า ผักกาดขาวปลี ผักกาดเขียวปลี หอม กระเทียม พริก มะเขือ ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 40-50 กก./ไร่ ทั้งนี้แล้วแต่ความอุดมสมบูรณ์ของดิน ควรแบ่งใส่สองครั้ง ครั้งแรกใส่รองพื้นจํานวนครึ่งหนึ่ง และครั้งที่สองใส่ห่างจากครั้งแรกประมาณ 25-30 วัน โดยใส่เป็นปุ๋ยเคมีแต่งหน้า พืชไร่ และพืชสวน ใช้กับพืชที่ต้นยังเล็กอยู่และต้องการเร่งให้โตเร็วหรือพืชที่ขาดธาตุนี้ เช่น ข้าวโพด อ้อย กาแฟ กล้วย สับปะรด ยางพารา ข้าวโพด ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 60-70 กก./ไร่ ร่วมกับปุ๋ยฟอสเฟตหรือโพแทช หรือใช้ใส่เดี่ยวเป็นปุ๋ยเคมีครั้งที่สอง อ้อย ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 80-100 กก./ไร่ ร่วมกับปุ๋ยฟอสเฟตและโพแทช ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพความสมบูรณ์ของดิน ก่อนใส่ปุ๋ยเคมีทุกครั้ง ควรดายหญ้าออกให้หมดเสียก่อน การใส่ควรใส่ระหว่างแถวหรือรอบๆ โคนต้นพอควรและควรกลบดินเสียหลังจากใส่ปุ๋ยเคมี​ ไม้ผล ปุ๋ยทิพย์

ปุ๋ยเคมี ธาตุอาหารเสริม พันทิพย์ 5 ลิตร

ปุ๋ยทิพย์ 16-8-8 แบ่งขาย 1 kg เร่งต้น เร่งใบเขียว

ปุ๋ยเกร็ด วาย วี พี ฟีด (Y.V.P FEED) สุตร 10-20-30 บรรจุ 1 กิโลกรัม นําเข้าจากประเทศอิสราเอล ธาตุไนโตรเจน หน้าที่และความสําคัญต่อต้นพืช ช่วยทําให้พืชตัวตัวได้เร็วในระยะแรกของการเจริญเติบโต ช่วยเสริมใบและลําต้นให้มีสีเขียวเข้ม และช่วยเพิ่มปริมาณโปรตีนให้แก่พืชที่ใช้เป็นพืชอาหาร เช่น ข้าวหรือหญ้าเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องควบคุมการออกดอกออกผลของพืช ช่วยเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น โดยเฉพาะพืชที่ให้ผลและเมล็ด

อาหารบํารุงพืช พันธุ์ไม้ทิพย์ ปุ๋ยทิพย์ 50 โล พด 1 4 พด 1 2 พด 14

พืชที่แนะนําให้ใช้ พืชไร่ ไม้ผล พืชผัก และไม้ดอกไม้ประดับ พืชไร่ ​มันสําปะหลัง ใส่ปุ๋ยเคมีครั้งเดียว เป็นหลุมสองข้างต้นแล้วพรวนดินกลบ ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 60-80 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1-2 เดือน หรือหลังการกําจัดวัชพืชครั้งแรก ​อ้อย ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 60-100 กก./ไร่/ปี ดังนี้ อ้อยปลูก แบ่งใส่เป็นสองครั้งเท่า ๆ กัน ใส่ครั้งแรกหลังปลูกประมาณ 1 เดือน ใส่ครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน อ้อยตอ นอกเขตชลประทาน ครั้งแรกต้นฤดูฝน ครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว อ้อยตอ ในเขตชลประทาน ครั้งแรกใส่ทั้งหมดหลังตัดแต่งตอ ครั้งที่สองใส่ปุ๋ยเคมีแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) อัตรา 20-40 กก./ไร่ หลังจากใส่ครั้งแรก 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว ควรใส่ปุ๋ยเคมีขณะที่ดินมีความชื้นพอเหมาะและต้องพรวนดินกลบปุ๋ยเคมี ไม้ผล ใส่ปุ๋ยเคมีบริเวณทรงพุ่มแล้วพรวนดินกลบในอัตรา 1-5 กก./ต้น/ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น และในปีหนึ่ง ๆ ควรแบ่งในปุ๋ยเคมีประมาณ 3 ครั้ง พืชผัก

สูตรเสริมสร้างการเจริญเติบโตในระยะแรก ส่งเสริมการเติบโตของลําต้น กิ่ง ก้าน ใบ และส่วนที่มีสีเขียว ประกอบด้วยธาตุไนโตรเจนสูง จึงช่วยเร่งต้น เร่งใบ ออกเถา แตกยอด แตกกอ ขยายใบให้มีขนาดใหญ่

ปุ๋ย AB หรือธาตุอาหาร AB มีสารอาหารที่จําเป็นสําหรับพืชครบถ้วน มีคลิปสอนผสมปุ๋ยให้แบบละเอียด พร้อมคู่มือ ปุ๋ย AB หรือธาตุอาหาร AB เป็นที่อาหารพื้นฐานที่จําเป็นสําหรับพืช (NPK) ไม่ใช่สารพิษเเต่อย่างใด ปุ๋ยอัตราส่วน ต่อ น้ํา 3 ซีซี ต่อ น้ํา 1
ลิตร : สําหรับอนุบาลต้นกล้า 5 ซีซี ต่อ น้ํา 1
ลิตร : สําหรับลงกล่องปลูกผัก ส่งสินค้าภายในวัน ตัดรอบ 13.00 น.ทุกวัน (หยุดวันอาทิตย์) *** ต้องการใบกํากับภาษีทักแชทได้เลยค่ะ ***

Tip tpi ปุ๋ยอินทรีย์

คุณสมบัติ : ช่วยในการผสมเกสร ผสมเกสรดีป้องกันเมล็ดลีบ เพิ่มน้ําหนัก ทําให้พืชนําธาตุโพแทสเซียมและธาตุแคลเซียมไปใช้ได้ดีขึ้น มีบทบาทในการย่อยและสังเคราะห์โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต จําเป็นในการแบ่งเซลล์พืช
วิธีใช้ : ใช้ในอัตรา 20-30 ซีซี/น้ํา 20 ลิตร ควรฉีดพ่นให้เป็นละอองเล็กๆพอเปียกทั่วไปและทุกๆส่วนของพืช พ่นทุกๆ 7-10 วัน

ปุ๋ยเร่งดอกทุเรียน ปุ๋ยเกษตรขั้นเทพ ยาเร่งดอกมะนาว ปุ๋ย 18 24 2 4 ปุ๋ยทิพย์ 50 โล

เป็นขนาด 1 ลิตร ปุ๋ยแห้ง คือ ปุ๋ยที่ต้องไปผสมเอง มีธาตุอาหารครบถ้วน ปุ๋ยเอ จะมีธาตุอาหาร 3 ตัว ปุ๋ยบี จะมีธาตุอาหาร 5 ตัว ควรผสมให้ละลายทีละตัว เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ปุ๋ยน้ํา ไฮเฟิร์ท เอ็กซ์ ปุ๋ยเคมีสูตร 14-5-141 ลิตร

พืชที่แนะนําให้ใช้ พืชไร่ ไม้ผล พืชผัก และไม้ดอกไม้ประดับ พืชไร่ ​มันสําปะหลัง ใส่ปุ๋ยเคมีครั้งเดียว เป็นหลุมสองข้างต้นแล้วพรวนดินกลบ ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 60-80 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1-2 เดือน หรือหลังการกําจัดวัชพืชครั้งแรก ​อ้อย ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 60-100 กก./ไร่/ปี ดังนี้ อ้อยปลูก แบ่งใส่เป็นสองครั้งเท่า ๆ กัน ใส่ครั้งแรกหลังปลูกประมาณ 1 เดือน ใส่ครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน อ้อยตอ นอกเขตชลประทาน ครั้งแรกต้นฤดูฝน ครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว อ้อยตอ ในเขตชลประทาน ครั้งแรกใส่ทั้งหมดหลังตัดแต่งตอ ครั้งที่สองใส่ปุ๋ยเคมีแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) อัตรา 20-40 กก./ไร่ หลังจากใส่ครั้งแรก 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว ควรใส่ปุ๋ยเคมีขณะที่ดินมีความชื้นพอเหมาะและต้องพรวนดินกลบปุ๋ยเคมี ไม้ผล ใส่ปุ๋ยเคมีบริเวณทรงพุ่มแล้วพรวนดินกลบในอัตรา 1-5 กก./ต้น/ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น และในปีหนึ่ง ๆ ควรแบ่งในปุ๋ยเคมีประมาณ 3 ครั้ง พืชผัก ปุ๋ยทิพย์

พันทิพย์ ปุ๋ยเคมี ธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม ขนาด 5 ลิตร

- ปุ๋ยยูเรีย 21-0-0 เร่งใบเขียว - ปุ๋ยสูตร 25-7-7 เร่งต้น เร่งใบเขียว ผักกินใบ - ปุ๋ยสูตร 15-15-15 เร่งต้น ดอก ผล ต้นไม้ ไม้ผล ไม้ดอก - ปุ๋ยสูตร 8-24-24 เร่งดอก เร่งผล ไม้ผล ไม้ดอก - ปุ๋ยสูตร 0-0-60 เพิ่มเนื้อ เพิ่มแป้ง ขยายหัว พืชลงหัว - ปุ๋ยสูตร 15-0-0 (แคลเซียม 26%) ตราเรือใบไข่มุกโนวา - ปุ๋ยสูตร 14-14-21 เร่งดอกเร่งผล ปุ๋ยทิพย์

อาหารบํารุงพืช พันธุ์ไม้ทิพย์ ปุ๋ย 16 16 16 ส่ง ฟรี ปุ๋ย 16 16 16 ส่งฟรี ปุ๋ยทิพย์ 15 5 20 ปุ๋ยละลายช้า 1 กก

ปุ๋ย เร่ง ต้นไม้ โต เร็ว ปุ๋ยเพิ่มความหวานผลไม้ ปุ๋ย 13 13 21 50 kg ฮอร์โมน ถั่วงอก 77 7 ปุ๋ยเพิ่มความหวาน

ชาลีเฟรท แม่ปั้มเบรคtoyota mtx ปุ๋ยชาลีเฟรท 20 20 20 ปุ๋ยเกร็ด 21 21 2 1 ปุ๋ย 13 0 46 ส่งฟรี ปุ๋ยเกล็ดปลานิลทอง

ปุ๋ยเกล็ด Y V P FEED สูตร 6-32-32 สูตรสะสมอาหารเพื่อเร่งการออกดอกและบํารุงผล ละลายง่ายไม่ติดหัวฉีด ละลายระบบน้ําหยด บรรจุ 1 กิโลกรัม

วายวีพี ปุ๋ยเกร็ด วาย วี พี ฟีด Y V P FEED สุตร 25-5-5 ปุ๋ยเขียว บรรจุ 1 กิโลกรัม สูตรเสริมสร้างการเจริญเติบโตในระยะแรก ส่งเสริมการเติบโตของลําต้น กิ่ง ก้าน ใบ และส่วนที่มีสีเขียวประกอบด้วยธาตุไนโตรเจนสูง จึงช่วยเร่งต้น เร่งใบ ออกเถา แตกยอด แตกกอ ขยายใบให้มีขนาดใหญ่ ใช้สําหรับ 1 ละลายน้ําเพื่อฉีดพ่นพืชโดยตรง โดยพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบและสามารถนําไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ 2 ละลายน้ํารด/ระบบน้ําหยด ประกอบด้วยธาตุไนโตรเจน 30 ธาตุฟอสเฟสที่เป็นประโยชน์ 10 โพแทชเซียมที่ละลายน้ํา 10 สามารถละลายน้ําได้ง่าย ไม่มีตะกอนและพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารไปใช้ได้ทันทีอัตราการใช้ 50-200 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร 0.5-2.0 กก ต่อน้ํา 200 ลิตร ธาตุไนโตรเจน หน้าที่และความสําคัญต่อต้นพืช ช่วยทําให้พืชตัวตัวได้เร็วในระยะแรกของการเจริญเติบโต ช่วยเสริมใบและลําต้นให้มีสีเขียวเข้ม และช่วยเพิ่มปริมาณโปรตีนให้แก่พืชที่ใช้เป็นพืชอาหาร เช่น ข้าวหรือหญ้าเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องควบคุมการออกดอกออกผลของพืช ช่วยเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น โดยเฉพาะพืชที่ให้ผลและเมล็ด

คุณสมบัติ : สูตรเร่งการเจริญเติบโต ลําต้น ใบ ครบสูตรพร้อมธาตุอาหารรอง-เสริม ประกอบด้วยปริมาณธาตุอาหารรับรองดังนี้ ไนโตรเจนทั้งหมด (N)........................30% ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (P2O5)........10% โพแทสเซียมที่ละลายน้ํา (K2O)...........10%
ธาตุอาหารอื่นๆ: Mg แมกนีเซียม 0.05 % Mn แมงกานีส 0.032 % B โบรอน 0.003 % Cu ทองแดง 0.014 % Fe เหล็ก 0.034 % Zn สังกะสี 0.015 % Mo โมลิบดีนัม 0.001 %
ประโยชน์ : สูตรเร่งการเจริญเติบโตในระยะแรกของพืชทุกชนิด ช่วยในการสร้างราก แตกกิ่งก้าน แตกใบใหม่ สร้างลําต้นให้แข็งแรง ทนทานต่อโรค ฉีดพ่นในผัก ช่วยให้ใบเขียว ต้นอวบ น้ําหนักดี
วิธีใช้ : ใช้อัตรา 50-100 กรัม ต่อน้ํา 20 ลิตร ฉีดพ่นให้เป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบและทุกๆส่วนของพืชทุกๆ 7-10 วัน

ปุ๋ยทิพย์ 25-7-7 ขนาดบรรจุ 1kg สูตร 25-7-7 ( 1MgO) พืชที่แนะนําให้ใช้ พืชไร่ ไม้ผล พืชผัก พืชไร่ เช่น อ้อย มันสําปะหลัง ข้าวโพด ​อ้อย เหมาะสาหรับดินที่มีความอุดมสมบรูณ์ เช่น ดินเหนียวภาคกลาง ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 30-50 กก./ไร่/ปี ดังนี้ อ้อยปลูก แบ่งใส่เป็นสองครั้งเท่า ๆ กัน ใส่ครั้งแรกหลังปลูกประมาณ 1 เดือน ใส่ครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน อ้อยตอ นอกเขตชลประทาน ครั้งแรกต้นฤดูฝน ครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว อ้อยตอ ในเขตชลประทาน ครั้งแรกใส่ทั้งหมดหลังตัดแต่งตอ ครั้งที่สองใส่ปุ๋ยเคมีแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) อัตรา 20-40 กก./ไร่ หลังจากใส่ครั้งแรก 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว ควรใส่ปุ๋ยเคมีขณะที่ดินมีความชื้นพอเหมาะและต้องพรวนดินกลบปุ๋ยเคมี มันสําปะหลัง ใช้ในดินที่มีธาตุอาหารโปแทสเซียมมากกว่า 30 ส่วนในล้านส่วน (30 ppm) ใส่ปุ๋ยครั้งเดียวเป็นหลุมสองข้างต้นแล้วกลบปุ๋ย ในอัตรา 40-60 ก ก./ไร่ เมื่ออายุ 1-2 เดือน หรือหลังการกําจัดวัชพืชครั้งแรก ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ใช้ในดินร่วนปนทรายหรือดินทราย ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 50-100 กก./ไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้งเท่า ๆ กัน ครั้งแรกใส่ตอนเตรียมดินก่อนปลูกพืชเล็กน้อย ครั้งที่สองโรยสองข้างแถวแล้วพูนดินกลบเมื่ออายุประมาณ 25-30 วัน ก่อนใส่ปุ๋ยจะต้องปราบวัชพืชให้เรียบร้อย ไม้ผล เช่น มะม่วง กล้วย มะละกอ มะนาว องุ่น ลําไย น้อยหน่า ทุเรียน เงาะ มังคุด ลางสาด ลิ้นจี่ ฝรั่ง และส้ม ใช้ในระยะที่มีอายุ 1-3 ปีเท่านั้นเพื่อเร่งการเจริญเติบโต ในอัตรา 1-5 กก./ต้น/ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น และในปีหนึ่ง ๆ ควรแบ่งในปุ๋ยเคมีประมาณ 3 ครั้ง พืชผัก เช่น กะหล่ําดอก กะหล่ําปลี ผักกาดขาว ผักชี คึ่นฉ่าย ผักกวางตุ้ง หอม กระเทียม พริก มะเขือ และน้ําเต้า ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 50-60 กก./ไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้งเท่า ๆ กัน ครั้งแรกใส่ตอนเตรียมดินก่อนปลูก ครั้งที่สองใส่ปุ๋ยหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 15-30 วัน ธาตุอาหารรอง / ธาตุอาหารเสริม แมกนีเซียม (Mg) เป็นองค์ประกอบสําคัญของคลอโรฟิลล์ (สีเขียว) ในพืช ช่วยสร้างโปรตีน ไขมัน วิตามิน และน้ําตาลในพืช ส่งเสริมการนําธาตุฟอสฟอรัสไปสู่ลําต้น ทําให้สภาพกรดด่างในเซลล์เหมาะสม

ปุ๋ยเกล็ด 13 0 46 25 กก ปุ๋ยระบบน้ําหยด vamax ธาตุรวม ปุ๋ย อินทรีย์ ปุ๋ยรองพื้น

ปุ๋ยฮิวมิค FK พลิกฟื้นสวนกาแฟของคุณ กาแฟคุณภาพ เริ่มต้นที่ดินดี ปุ๋ยฮิวมิค FK สูตรเข้มข้น ช่วยให้ต้นกาแฟของคุณ โตไว ใบเขียวเข้ม รากแข็งแรง พร้อมรับมือกับทุกสภาพดินฟ้าอากาศ เพิ่มผลผลิตกาแฟคุณภาพสูงอย่างยั่งยืน ทําไมต้องปุ๋ยฮิวมิค FK?
สารออกฤทธิ์เข้มข้น: ฮิวมิค แอซิด (Humic acid) สูงถึง 85% WP พร้อมฟลูวิคแอซิดเสริม ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร ทําให้ต้นกาแฟแข็งแรงทนทานต่อโรคและแมลง
ปรับปรุงสภาพดิน: ช่วยปรับโครงสร้างดินให้ร่วนซุย ระบายน้ําและอากาศได้ดี ทําให้รากกาแฟเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่
เพิ่มผลผลิต: ช่วยให้ต้นกาแฟออกดอก ออกผลดก ผลโตเต็มที่ รสชาติเข้มข้น
ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม: ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้าง เห็นผลจริงภายใน 1 เดือน
ใบเขียวเข้ม: ใบกาแฟดูอิ่มน้ํา มีคลอโรฟิลล์สูง สังเคราะห์แสงได้ดีขึ้น
รากแข็งแรง: รากแผ่ขยายออกไปหาอาหารได้ดีขึ้น ต้นกาแฟแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม
ผลผลิตเพิ่มขึ้น: ผลกาแฟโตเต็มที่ รสชาติเข้มข้น คุณภาพดี
ขนาดบรรจุ: 500 กรัม 1 กิโลกรัม ปุ๋ยฮิวมิค FK เหมาะสําหรับกาแฟทุกสายพันธุ์และทุกสภาพดิน อัตราการใช้ ฮิวมิค FK
ผสมน้ําฉีดพ่น: ใช้ 10-20 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 15 วัน ได้ทุกระยะของพืช
ผสมกับสารเคมีอื่น: ใช้ 10-20 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม และเพิ่มฤทธิ์สารเคมี
ผสมน้ําราดดิน: - ดินเหนียว ใช้อัตรา 2-3 กก ต่อไร่ - ดินทราย ใช้อัตรา 1-2 กก ต่อไร่ ผสมน้ําราด หรือฉีดพ่น บริเวณโคนต้นหรือทรงพุ่ม
คลุกปุ๋ยเม็ด: ใช้ 500 กรัม คลุกปุ๋ยเม็ด 25 กก ใช้เข้ากัน แล้วนําไปหว่าน FK(เอฟเค)

วายวีพี ปุ๋ยเกร็ดสุตร 6-32-32 บรรจุ 1 กิโลกรัม สูตรสะสมอาหารเพื่อเร่งการออกดอกและบํารุงผล ใช้สําหรับ ละลายน้ําเพื่อฉีดพ่นพืชโดยตรง โดยพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบและสามารถนําไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย ธาตุไนโตรเจน 6 ธาตุ ฟอสเฟสที่เป็นประโยชน์ 32 โพแทชเซียมที่ละลายน้ํา 32% สามารถละลายน้ําได้ง่าย ไม่มีตะกอนและพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารไปใช้ได้ทันที อัตราการใช้ 50-100 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร 0.5-1.0 กก ต่อน้ํา 200 ลิตร) ธาตุไนโตรเจน หน้าที่และความสําคัญต่อต้นพืช ช่วยทําให้พืชตัวตัวได้เร็วในระยะแรกของการเจริญเติบโต ช่วยเสริมใบและลําต้นให้มีสีเขียวเข้ม และช่วยเพิ่มปริมาณโปรตีนให้แก่พืชที่ใช้เป็นพืชอาหาร เช่น ข้าวหรือหญ้าเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องควบคุมการออกดอกออกผลของพืช ช่วยเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น โดยเฉพาะพืชที่ให้ผลและเมล็ด