อินเทอร์เน็ตไร้สายเป็นปัจจัยแบบสามัญประจำบ้านไปแล้ว ด้วยการเล่น Wi-Fi ตามที่ต่าง ๆ ในบ้านเป็นอะไรที่สะดวกและคล่องตัวขึ้น การใช้เราเตอร์ไร้สายเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ครอบคลุมทั่วบ้าน แก้ไขในบางจุดที่อับสัญญาณขณะใช้งานได้เลย โดยในปัจจุบันมีหลายค่ายที่ผลิตและจำหน่ายทั้ง D-Link, Tenda, TP-Link หรือ Zyxel เป็นต้น
วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีเลือกเราเตอร์ไร้สายซึ่งมีหลายรุ่นและหลากหลายยี่ห้อให้เลือก แต่ละแบบจะมีลักษณะเฉพาะ เช่น การรับ-ส่งสัญญาณได้ไกลเท่าไร, รองรับความเร็วสูงสุดที่เท่าไร เป็นต้น โดยแต่ละรุ่นจะมีช่องเสียบสาย LAN มาให้เลือกใช้งานกันซึ่งจะมีรุ่นอะไรที่น่าสนใจบ้างมาดูกันเลย
ครั้งนี้เราจะมาแนะนำวิธีเลือกเราเตอร์ไร้สายที่มีในปัจจุบันซึ่งเราสามารถหาซื้อได้ตามเว็บไซต์ โดยต้องทราบรายละเอียดการใช้งานและโครงสร้างที่อยู่อาศัยที่ต้องการใช้งานจะทำให้เลือกได้ง่ายยิ่งขึ้น
ที่ต้องบอกแบบนี้เพราะแต่ละบ้านมีพื้นที่ใช้สอยต่างกัน การหักมุมหรือพื้นที่ใช้งานในบ้านก็แตกต่างตามไปด้วย โดยเฉพาะการแบ่งกั้นห้องเป็นตัวทำให้สัญญาณอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ฉะนั้นสิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบก่อนคือ พื้นที่ทำเลในบ้าน และการกระจายของสัญญาณอินเทอร์เน็ตเดิมที่ใช้งาน
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการใช้เราเตอร์ไร้สายที่รองรับความเร็วสูงจะทำให้ความเร็วที่ได้รับนั้นเพิ่มขึ้น แต่ความจริงแล้วความเร็วอินเทอร์เน็ตขึ้นอยู่กับแพ็คเกจที่คุณเลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นค่าย True, AIS, 3BB หรือ Cat ก็ตาม หากความเร็วที่เลือกใช้งานปัจจุบันเป็น VDSL 100MB ความเร็วที่ได้ก็จะไม่มากเกินกว่านี้แน่นอน เว้นเสียแต่ว่าคุณมีความเร็วของแพ็คเกจสูงอยู่แล้ว เช่น ใช้งานแพ็คเกจ 300MB เราเตอร์ที่คุณเลือกซื้อรองรับได้ถึง 1,000MB เมื่อเปลี่ยนจะได้ความเร็วถึง 300MB นั่นเอง
ถ้าคุณต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านแบบตึกแถวหลายชั้น อาคารพาณิชย์ หรืออพาร์ทเมนต์ที่แบ่งพื้นที่ใช้สอยหลากหลาย แนะนำให้เลือกเราเตอร์ไร้สายแบบหลายเสาสัญญาณจะช่วยชดเชยมุมอับของสัญญาณได้มากขึ้น หากพื้นที่อาศัยมีเพียง 1 ชั้นสามารถใช้ 1-2 เสาสัญญาณก็เพียงพอ 2-3 ชั้นขึ้นไปแนะนำให้ใช้แบบ 2-3 เสาสัญญาณเพิ่มสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปได้ไกลขึ้น และหากอยู่ในบ้านที่เป็นโครงสร้างหนามากเช่น คอนกรีตเสริมเหล็กควรใช้เราเตอร์แบบ 4 เสาสัญญาณจะดีที่สุด
คลื่นความถี่ปัจจุบันทั้งหมดที่ใช้ในบ้านเรา คือ 2.4 GHz band และ 5 GHz band เราจะอธิบายรายละเอียดแต่ละข้อดังนั้นเรามาดูกันว่าจะเลือกอันไหนตามสถานการณ์การใช้งาน
ในย่านความถี่แบบ 2.4 GHz band มักใช้เป็นคลื่นวิทยุซะส่วนมากทำให้สัญญาณในย่านนี้ค่อนข้างหนาแน่น แต่ความเสถียรในการใช้งานเรียกได้ว่ามั่นคงและปลอดภัยพอตัว ทั้งยังปล่อยสัญญาณในระยะไกลได้ 1-2 ชั้นของบ้าน (ประมาณ 5-15 เมตร ตามประเภทของบ้าน) เหมาะกับการใช้งานบนมือถือ แท็บเล็ต หรือแม้แต่เครื่องเกมอย่าง Playstaion 4, Xbox, Nintendo Switch ก็ใช้งานได้ดีเหมือนกัน แต่ปัจจัยที่ส่งผลมากที่สุดกับคลื่นย่าน 2.4 GHz band คือ เตาไมโครเวฟหรือคลื่นวิทยุที่ใช้งานย่านเดียวกันจะทำให้สัญญาณดรอปลงทันที
ความถี่ในย่าน 5 GHz band ค่อนข้างไวต่อสิ่งกีดขวางทุกชนิดเรียกได้ว่า อะไรกั้นนิดหน่อยก็ทับให้สัญญาณอ่อนลงได้เลย ข้อดีของย่าน 5 GHz band คือการที่สัญญาณค่อนข้างสะอาดไม่แออัดในคลื่นความถี่นี้และไม่มีการแย่งสัญญาณกันหากใช้งานภายในอพาร์ทเมนต์หรือพื้นที่หนาแน่นก็ตาม ด้วยความที่ไวต่อสิ่งกีดขวางทำให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตแคบตามไปด้วย โดยคลื่นความถี่ 5 GHz band เหมาะกับการใช้งานภายในห้องหรือระยะสั้นจะดีที่สุด (ไม่เกิน 3-5เมตร) หากต้องการใช้งานเกินกว่าระยะที่กล่าวถึงแนะนำให้ใช้ Wi-Fi Repeater จะดีกว่า
ความเร็วไม่ได้มีแต่เพียงแค่แพ็กเกจเท่านั้นยังต้องดูการเข้ารหัสของสาย LAN และเราเตอร์ไร้สายที่รองรับรหัสรุ่นใหม่ ช่วยเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตได้ด้วยมาตรฐานการสื่อสารของอุปกรณ์ที่ใช้
มาตรฐานหลักของสายแลนจะเป็น IEEE 802.11 ได้ถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับด้วยกัน คือ b · a · g · n · ac ตามลำดับ โดยปัจจุบันใช้ IEEE 802.11ac ในหลาย ๆ ที่ทั่วโลกแล้วเราจำเป็นต้องใช้สาย LAN ที่รองรับการใช้งานประเภทนี้และเราเตอร์ไร้สายเช่นกัน สำหรับอุปกรณ์ไอทีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น Smartphone, PC, Game Console ซึ่งสามารถรองรับความเร็วถึงขั้น Gbps เลยทีเดียว
สัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายควรรองรับการใช้งานได้ดีทั้งจากด้านนอกตัวบ้านและในบ้าน ฉะนั้นที่ตั้งเราเตอร์ไร้สายระหว่างภายในบ้านและพื้นที่การใช้งานค่อนข้างสำคัญมาก แม้ว่าจะเจอมุมอับภายในบ้านเราแก้ปัญหาได้ด้วยการใช้เราเตอร์ไร้สายแบบมีเสาสัญญาณมากขึ้น ความเร็วและความเข้มของสัญญาณก็มากขึ้นตามไปด้วย หากใช้ในวงกว้างและระยะไกลอย่างน้อยควรใช้ตั้งแต่ 3 เสาขึ้นไป
เมื่อต้องอยู่บ้านหรือสำนักงานการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้มีเพียงแค่คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คเท่านั้น ยังมีสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตช้าลง ดังนั้นควรจำกัดการใช้งานกับเครื่องต่าง ๆ หรือเลือกซื้อเราเตอร์ไร้สายแบบที่มีราคาแพงหน่อยเพื่อให้สามารถเชื่อมหลายเครื่องได้พร้อมกัน
Beamforming ช่วยเพิ่มให้คลื่นสัญญาณกับ Access Point ก่อนจะมีการ Beamforming หน้าที่ช่วยกระจายสัญญาณไปยังทุกทิศทางที่จะส่งไปถึง เรียกได้ว่าเป็นตัวขยายสัญญาณจนบางครั้งอาจเกิดปัญหาสัญญาณล้นก็เป็นได้ และช่วยสนับสนุนเทคนิค MU-MIMO (Multi-user Multiple Input Multiple Output) ในการรับส่งข้อมูลครั้งละมาก ๆ และหลายเครื่องได้ในเวลาเดียวกัน
เวลาเล่นเกมส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ใช้งาน วิธีแก้อีกอย่างหนึ่งคือการเปิด Port เราเตอร์ตาม Port ที่เกมส์ค่ายนั้น ๆ เจาะจงมาจะดีที่สุด นอกจากการความเร็วที่ดีขึ้นยังสามารถสร้างหรือแชร์ข้อมูลบนเกมส์ได้ด้วย นอกจากเกมส์แล้วการดูทีวีออนไลน์บางค่ายก็จำเป็นต้องเปิด Port เพื่อความลื่นไหลในการรับชมต่าง ๆ อีกด้วย
นอกจากความถี่หรือสภาพมุมอับของพื้นที่แล้ว ยังต้องสำรวจจุดติดตั้งเราเตอร์ให้สามารถเข้าถึงสาย LAN ง่ายด้วยเหมือนกัน เราจะมาแนะนำให้ติดตั้งได้ง่ายและดีที่สุดกัน
เราเตอร์ไร้สายที่จะติดตั้งสามารถติดตั้งได้ทั้งแบบแนวนอน (วางกับที่ตั้ง) หรือจะแขวนผนังก็ได้ขึ้นอยู่กับที่วางและความสะดวกเป็นหลัก สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายและต่อหรือลากสาย LAN เข้าถึงได้สะดวกก็จะดีมาก ๆ ทางเลือกอีกอย่างคือเลือกเราเตอร์ไรสายที่มีขนาดกระทัดรัดช่วยประหยัดพื้นที่ไปได้ระดับหนึ่งด้วย
การเลือกซื้อเราเตอร์ในปัจจุบันอย่าลืมเลือกดูการรองรับความเร็วของเราเตอร์และการเข้ารหัสด้วย และอย่าลืมว่าคุณไม่ได้ใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์เท่านั้น ยังมีแท็บเล็ตและมือถืออีกด้วย หากซื้อมาแล้วไม่รองรับความเร็วที่ใช้ได้คงแย่เลยละ
NAS หรือ Network Attached Storage เป็นอุปกรณ์ที่ใช้บริหารและจัดเก็บข้อมูลนอกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ การมี USB Port ที่รองรับระบบ NAS จะทำให้การใช้ External Storage เป็นไปได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
จากนี้ไปเราจะมาแนะนำเราเตอร์ไร้สายที่เป็นที่นิยมในเมืองไทยซึ่งมีวางจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์หลากหลายแบรนด์ด้วยกัน ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมมาให้คุณแล้ว ทั้งแบบที่รองรับทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz คุณสามารถเลือกเราเตอร์ให้เข้ากับการใช้งานของคุณได้เพียงแค่คลิก ไม่ต้องฝ่ารถติดไปซื้อตามห้างร้านอีกต่อไป
อัพเกรด Wi-Fi ในบ้านของคุณด้วย ZyXEL AC1200 ที่ให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุดถึง 1,000 Mbps สามารถเชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 64 เครื่องด้วยกัน ใช้งานคลื่นความถี่ที่ 2.4 GHz และ 5GHz เรียกได้ว่ามาเต็มสปีดจริง ๆ เหมาะสำหรับใช้งานภายในบ้านหรือสำนักงานต่าง ๆ เหมาะกับสายครีเอเตอร์ ยูทูปเบอร์ สาย Live สด หรือสตรีมเกมส์ก็ไม่มีปัญหาอินเทอร์เน็ตช้า กระตุก ดีเลย์มากวนใจแน่นอน
ตัวเราเตอร์ไร้สายนี้รองรับคลื่นความถี่ที่ 2.4 GHz ช่วยขยายสัญญาณ Wi-Fi ได้ไกล มาพร้อมเสาสัญญาณถึง 4 เสา สามารถใช้งานพร้อมกันหลายเครื่องได้แม้จะใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนพร้อมกันก็ไม่มีปัญหา ทั้งมีแอพพลิเคชั่นรองรับทั้ง Android และ iOS ให้ปรับแต่งเราเตอร์ได้อย่างสะดวกเหมาะกับการใช้งานภายในบ้านหรือสำนักงานต่าง ๆ ก็ดีเหมือนกัน
เราเตอร์ไร้สาย Tenda-AC10 ตัวนี้รองรับความถี่สัญญาณที่ 2.4 GHz และ 5GHz ทำให้การใช้งานดีและสัญญาณคงที่ รองรับความเร็วสูงถึง 1,000Mbps เรียกได้ว่าเร็วแรงเต็มสปีดเหมาะกับสายเกมเมอร์สุด ๆ ไม่ว่าจะเล่นบนคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตก็หมดห่วงสัญญาณหายแน่นอน ด้วยเสาสัญญาณที่มีให้ 4 เสาและพอร์ต LAN 4 พอร์ตด้วยกัน ทำให้สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน
เราเตอร์ไร้สายจาก Tenda เป็นอีกแบรนด์ที่นิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยราคาที่ไม่แรงมากทำให้สามารถเอื้อมถึงได้เราเตอร์ไร้สายตัวนี้ส่งสัญญาณ Wi-Fi ได้ไกลถึง 50เมตร (ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม) รองรับคลื่นความถี่ที่ 2.4 GHz มาพร้อมเฟิร์มแวร์หลายภาษาสะดวกกับการติดตั้งมาก ๆ สามารถใช้ความเร็วสูงถึง 300Mbps ได้
เราเตอร์แบรนด์ดังที่นิยมในไทยอีกแบรนด์หนึ่งคือ TP-Link โดยตัวนี้ออกแบบให้ใช้งานกับภายในบ้านหรือสำนักงานขนาดเล็กที่ใช้งานไม่มากนัก รองรับการใช้งานพร้อมกันหลายเครื่องส่งสัญญาณ Wi-Fi ได้ไกลประมาณ 20-40 เมตร ขึ้นอยู่กับสถานที่และสภาพห้องที่ใช้งาน โดยคลื่นความถี่ที่ใช้งานได้คือ 2.4GHz ใช้ความเร็วได้สูงสุดถึง 300Mbps เลยทีเดียว หากจะเลือกเราเตอร์ไร้สายใช้ในบ้านสักตัวแนะนำตัวนี้ก็ดีนะ
เราเตอร์ไร้สายแบรนด์ยอดนิยมไม่แพ้ยี่ห้อดังอื่น ๆ อย่าง Xiaomi Mi WIFI Router 4C รุ่นนี้รองรับสัญญาณแบบ 2.4 GHz ในระยะครอบคลุมถึง 60 เมตร (ขึ้นอยู่กับสถานที่และสภาพโดยรอบ) มีเสาสัญญาณให้ 4 เสา ความพิเศษของเราเตอร์ไร้สายตัวนี้คือ มีแอพพลิเคชั่นสำหรับ Setup ตัวเราเตอร์ได้ด้วย และฟีเจอร์ในตัวมันใช้งานง่ายมาก ๆ แนะนำให้เป็นตัวเลือกอีกตัวหนึ่งเลยครับ
เห็นราคาแล้วอย่าเพิ่งตกใจไปนะครับ สำหรับคนที่ชอบความหรูหราไฮเอนด์ต้องเราเตอร์ไร้สายตัวนี้เลย ที่ให้เสาสัญญาณทั้งหมด 4 เสาด้วยกัน และมีดีไซน์ที่เตะตาสุด ๆ รองรับการใช้งานคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5GHz ที่ส่งสัญญาณได้เสถียรสุด ๆ และให้ความเร็วสูงถึง 2,000 Mbps เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็น NAS หรือ Storage ในตัวได้ด้วย รองรับ Hard disk ขนาด 3.5 นิ้ว ทั้งยังมีขนาดเล็กติดตั้งง่ายสะดวกและรวดเร็ว
เราเตอร์ไร้สายสำหรับใช้ภายในบ้าน อาคาร หรือสถานที่ในร่ม ช่วยกระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้กว้างสูงสุดถึง 50 เมตร มาพร้อมเสาสัญญาณ 4 เสาที่รองรับสัญญาณความถี่แบบ 2.4 GHz ให้ความเร็วสูงสุดถึง 300 Mbps เหมาะกับการใช้ตามร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือสถานที่จัดงานที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึง เราเตอร์ไร้สายตัวนี้มีพอร์ต LAN มาให้ 1 พอร์ตและพอร์ตสำหรับ Ethernet อีก 1 พอร์ตสำหรับใช้งานเน็ตเวิร์คภายในอีกชุดหนึ่งด้วย
เราเตอร์ไร้สสาย Xiaomi WiFi A Mplifier ตัวนี้ได้รับการออกแบบมาให้ขยายสัญญาณอินทอร์เน็ต Wi-Fi และความแรงของสัญญาณ เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน หรือสำนักงาน อาคารต่าง ๆ รองรับความเร็วสูงสุดถึง 300Mbps มาพร้อมเสาอากาศคู่ (2 เสา) และมีขนาดเล็กกระทัดรัดพร้อมช่วยกระจายสัญญาณได้กว้างขึ้น เหมาะกับการเล่นเกมส์ เล่นอินเทอร์เน็ตของคุณและครอบครัว
เราเตอร์ไร้สายที่คอเกมส์ต้องถูกใจกับดีไซน์สุดล้ำที่สะดุดตา มาพร้อมเสาสัญญาณถึง 5 เสา ครอบคลุมการใช้งานวงกว้างมากถึง 80 เมตร (สัญญาณอ่อนตามระยะทางและสิ่งกีดขวาง) รองรับความเร็วสูงสุดถึง 1,200 Mbps ติดตั้งง่ายเหมาะกับการติดตั้งในจุดต่าง ๆ รองรับคลื่นสัญญาณ 2.4 GHz และ 5 GHz การใช้งานกับอุปกรณ์หลายอย่างทั้งคอมพิวเตอร์ โน็ตบุ๊ค แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนก็ได้เช่นกันครับ
ไม่ว่าเราเตอร์ไร้สายจะมีความซับซ้อนหรือความสามารถสูงขนาดไหนก็ตาม มีโอกาสที่จะทำความเร็วได้น้อยลงตามสภาพแวดล้อมที่ติดตั้งได้ ซึ่งแนะนำให้ใช้แอพพลิเคชั่นที่มีให้จากเราเตอร์แบรนด์นั้นๆ ที่ใช้ได้ทั้งสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ของคุณได้ทันที มันจะเป็นประโยชน์กับคุณเมื่อต้องกลับมาเช็คความเร็วและปริมาณสัญญาณที่เราเตอร์ส่งออกมา แนะนำให้ลองตรวจสอบคร่าวๆ ดังนี้
หากมีกำแพงขวางกั้นระหว่างเราเตอร์ไร้สายและสมาร์ทโฟนของคุณจะทำให้การเชื่อมต่อเป็นไปได้ยากและสัญญาณอ่อนลงแน่นอน ปัญหานี้จะเกิดกับคอนโด อพาร์ทเมนท์ ซึ่งมีโครงสร้างเป็นเหล็กเส้นทำให้รบกวนสัญญาณได้มากกว่าบ้านไม้นั่นเอง จึงแนะนำให้ติดตั้งเราเตอร์ไร้สายในจุดที่สัญญาณส่งถึงทั่วทุกจุดและไม่มีสิ่งกีดขวาง สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออย่าวางใกล้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าชิ้นอื่นที่ส่งสัญญาณรบกวน เช่น ทีวี, ตู้เย็น, เตาไมโครเวฟ เป็นต้น
เป็นธรรมดาที่การเล่นอินเทอร์เน็ตระยะไกลจะมีปัญหาเนื่องจากเราเตอร์แต่ละตัวมีการส่งสัญญาณได้ระดับหนึ่งอาจจะ 10-15 เมตร หรือไกลกว่านั้นหน่อย แล้วการใช้งานในบ้าน 2-3 ชั้นขึ้นไปแต่ต้องเลือกติดตั้งเราเตอร์ไว้ที่ชั้นใดชั้นหนึ่ง ชั้นที่เหลือจะมีสัญญาณอ่อนลงแน่นอน แนะนำให้ติดตั้ง Repeater ช่วยรับ-ส่งสัญญาณได้กว้างขึ้นและครอบคลุมการใช้งานจะเหมาะกว่า แต่อย่าลืมว่าควรหลีกเลี่ยงติดตั้งใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ส่งสัญญาณรบกวนด้วย
ในกรณีที่ใช้งานช่องสัญญาณแล้วมีการรบกวนหรือช้าเนื่องจากหลายสาเหตุ เช่น มีผู้ใช้งานสัญญาณย่านนั้นมากกว่าปกติ แนะนำให้เปลี่ยนช่องสัญญาณในเราเตอร์ได้เลย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการเล่นอินเทอร์เน็ตที่ช้าและขาดการเชื่อมต่อในที่สุด
ปัญหาสุดคลาสสิคที่ผู้ใช้งานทั่วไปไม่ค่อยทราบ คือการอัพเดทเฟิร์มแวร์ (Firmware) หรือซอร์ฟแวร์ (Software) ของเราเตอร์เหล่านั้น ทำให้เราตั้งค่าได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของเราเตอร์ได้อีกระดับหนึ่ง โดยเฟิร์มแวร์เหล่านี้สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของผู้พัฒนาเราเตอร์นั่นเอง
หลังจากที่เราแนะนำการเลือกเราเตอร์ไร้สายแล้วหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมองหาซื้อเราเตอร์ไร้สายไว้ใช้งานตามที่ต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคลและงบประมาณที่ต้องการ ซึ่งในเมืองไทยก็มีหลายแบรนด์และหลายรุ่นเหมือนกัน
เนื่องจากเราเตอร์ไร้สายค่อนข้างมีความหลากหลายของความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว พอร์ต LAN พอร์ต USB หรือจะเป็นเสาสัญญาณที่มีให้เช่นกัน รวมถึงราคาที่มีตั้งแต่ราคาต่ำไปจนถึงแพงเลยทีเดียว ดังนั้นผู้อ่านควรเลือกชนิดที่เข้ากับจุดประสงค์การใช้งานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดครับ