หลวง พ่อ เปิ่น ขี่ เสือ หนุ
มาน: ตั้งแต่ปี 1965 ของประเทศญี่ปุ่นโดยใช้เทคโนโลยีการควบคุมอุณหภูมิที่ไร้รอยต่อเพื่อให้แน่ใจว่าการนั่งที่ราบรื่นและผ่อนคลาย เจ้าสัว หลวง พ่อ
พัฒน์: ตั้งแต่ปีต่อๆไปจนถึงผู้โดยสารที่เป็นนวัตกรรมใหม่ หลวง พ่อพัฒน์ หนุ
มาน: อัปเกรดจากนักปีนเขาเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานมากที่สุดในการฝึกทักษะการต่อสู้ของพวกเขา
เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน: และไม่ง่ายที่จะเปลี่ยนรูปและจางหายไป
มีดหมอหลวงพ่อกวย: ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ยอดเยี่ยมที่มีความแม่นยําสูงพื้นผิวเรียบและทําความสะอาดง่าย มีีดหมดสาริกา หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ เทพเจ้าแห่งนครสวรรค์ ปลายด้ามตัด มีเศษชันโรงใต้ดินที่ด้ามและฝักมีด พุทธคุณครอบจักรวาฬ แล้วแต่อุปเทห์การใช้ ผู้ใดมีไว้ บอกได้คําเดียวว่า สุโค่ย แน่นอน กําเนิดเครื่องรางของขลัง เครื่องรางของขลัง จัดเป็นเรื่องที่ลึกลับและกว้างขวางมาก เป็นความเชื่อโบราณเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ในต่างประเทศระดับสากลทั่วโลกก็มีความเชื่อในเรื่องนี้ เพียงแต่แยกย่อยกันไปตามแต่ละท้องถิ่น ในบทความนี้จะกล่าวถึงเครื่องรางของขลังในสังคมไทยเท่านั้น คนไทยต่างก็มีความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลังที่พระคณาจารย์หลายท่านได้สร้างไว้ในแต่ละยุค จะเห็นได้จากการสืบทอดสรรพตําราตกทอดกันมายาวนาน แม้ในตําราพิชัยสงครามยังกล่าวถึงเครื่องรางของขลังที่นักรบสมัยโบราณพกติดตัวไว้ จะมีด้วยกันหลายชนิด ซึ่งแบ่งออกไปตามประเภทย่อยๆ ดังนี้ 1 ของมาจากธรรมชาติ ได้แก่ สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่มีการสรรค์สร้าง ซึ่งถือว่ามีดีในตัวและมีเทวดารักษา สิ่งนั้น ได้แก่ เหล็กไหล คดต่างๆ เขากวางคุด เขี้ยวหมูตัน เขี้ยวเสือกลวง ฯลฯ 2 ของที่สร้างขึ้นมา ได้แก่ สิ่งของที่มนุษย์สร้างขึ้นมา เช่น แร่ธาตุต่างๆ ที่หล่อหลอมตามสูตร การเล่นแร่แปรธาตุ อันได้แก่ เมฆสิทธิ์ เมฆพัด เหล็กละลายตัว สัมฤทธิ์ นวโลหะ สัตตะโลหะ ปัญจโลหะ เป็นต้น ทั้งนี้คลุมไปถึงเครื่องรางลักษณะต่างๆ ที่ได้รับการสร้างขึ้นมาเพื่อคุ้มกันภัยอันตราย แบ่งตามการใช้ 1 เครื่องคาด ได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้คาดศีรษะ คาดเอว คาดแขน ฯลฯ 2 เครื่องสวม ได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้สวมคอ สวมศีรษะ สวมแขน สวมนิ้ว ฯลฯ 3 เครื่องฝัง ได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้ฝังลงไปในเนื้อหนังของคน เช่น เข็มทอง ตะกรุดทอง ตะกรุดสาลิกา และการฝังเหล็กไหล หรือฝังโลหะมงคลต่างๆ ลงไปในเนื้อจะรวมอยู่ในพวกนี้ทั้งสิ้น 4 เครื่องอม ได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้อมในปาก เช่น ลูกอม ตะกรุดลูกอม สําหรับในข้อนี้ไม่รวมถึงการอมเครื่องรางชนิดต่างๆที่มีขนาดเล็กไว้ในปาก เพราะไม่เข้าชุด) แบ่งตามวัสดุ 1 โลหะ 2 ผง 3 ดิน 4 วัสดุอย่างอื่น อาทิ กระดาษสา ชันโรง ดินขุยปู 5 เขี้ยวสัตว์ เขาสัตว์ งาสัตว์ เล็บสัตว์ หนังสัตว์ 6 ผมผีพราย ผ้าตราสัง ผ้าห่อศพ ผ้าผูกคอตาย 7 ผ้าทอทั่วไป แบ่งตามรูปแบบลักษณะ 1 ผู้ชาย อันได้แก่ รักยม กุมารทอง ฤาษี พ่อเฒ่า ชูชก หุ่นพยนต์ พระสีสแลงแงง และสิ่งที่เป็นรูปของเพศชายต่างๆ 2 ผู้หญิง อันได้แก่ แม่นางกวัก แม่พระโพสพ แม่ศรีเรือน แม่ซื้อ พระแม่ธรณี และสิ่งที่เป็นรูปของผู้หญิงต่างๆ 3 สัตว์ ในที่นี้ หมายถึง พระโพธิสัตว์ อาทิ เสือ ช้าง วัว เต่า จระเข้ งู เป็นต้น แบ่งตามระดับชั้น 1 เครื่องรางชั้นสูง อันได้แก่ เครื่องรางที่ใช้บนส่วนสูงของร่างกาย ซึ่งนับตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงบั้นเอว สําเร็จด้วย พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ 2 เครื่องรางชั้นต่ํา อันได้แก่ เครื่องรางที่เป็นของต่ํา อาทิ ปลัดขิก อีเป๋อ แม่เป๋อ ไอ้งั่ง พ่องั่ง ไม่ได้สําเร็จด้วยของสูง 3 เครื่องรางที่ใช้แขวน อันได้แก่ ธงรูปนก รูปปลา หรือ กระบอกใส่ยันต์และอื่นๆ