วิตามินอี เป็นวิตามินที่มีสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ระบบต่างๆในร่างกายทํางานประสานกันได้ดี ปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระเป็นต้นเหตุแห่งความเสื่อมสภาพของเซลล์ มีส่วนทําให้ระบบการทํางานของผิวทํางานได้อย่างมีประสิทธภาพมากขึ้น จึงส่งผลช่วยให้ริ้วรอย จุดด่างดํา รอยสิวต่างๆจางลงได้ เป็นวิตามินที่นิยมใช้ช่วยรักษารอยแดง รอยสิว หลุมสิว โดยใช้ได้ทั้งกินและทา วิตามินอีและอนุพันธ์ของวิตามินอี มีคุณสมบัติ antioxidant ซึ่งจะไป neutralized การเกิด free radicals ดังนั้นวิตามินอีเป็นสิ่งสําคัญในการดูแลรักษาผิว มีการศึกษาวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า วิตามินอี ช่วยลด psoriasis erythema และช่วยลดการเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง ช่วยรักษาแผลเป็น และช่วยลดริ้วรอยบนผิว และจากการศึกษาพบว่า ผิวหนังในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า จะมีปริมาณของวิตามินอี มากกว่าบริเวณแขนถึง 20 เท่า เนื่องจากต่อมไขมัน เป็นช่องทางที่สําคัญในการหลั่งวิตามินอี ออกสู่ผิวหนัง ทั้งนี้ จากการวิจัยมากมาย ยืนยันว่า Vitamin E Acetate สามารถเร่งการสร้าง enzymeในผิว ปกป้องอนุมูลอิสระ และเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ จึงเหมาะสําหรับเป็นส่วนผสมในครีมหรือโลชั่น เพื่อช่วยทําหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระให้แก่ผิว ประโยชน์ของวิตามิน อี 1.ช่วยลดอัตราการทําลายของแสงแดด ที่ทําให้เกิดรอยแดง 2.ลดอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนังจากแสงแดด 3.ช่วยชลอความชราภาพของผิว ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น แตกลาย 4.การให้ความชุ่มชื้นและ ลดความหยาบกร้านของผิวพรรณ
การใช้: สําหรับผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม
วิธีการผสม: ผสมร่วมกับน้ํามันชนิดอื่นๆ หรือ emulsifier ไม่ควรโดนความร้อนเกิน 5 นาที
อัตราการใช้: 0.1-1% (แนะนํา 0.01% หากใช้ทําหน้าที่ anti-oxidant น้ํามันชนิดอื่นๆ และ 0.1-0.5% หากใช้ทําหน้าที่ anti-oxidant ผิว หากใช้มากกว่า 0.5% จะทําให้เกิดความรู้สึกเหนอะหนะผิวได้ การใช้ในระดับสูงจึงเหมาะสําหรับผิวที่แห้งมากเท่านั้น)
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : ของเหลวหนืดสีเหลืองอ่อน
INCI : Tocopherol vitamine, วิตามินอี, Vitami E